clock OPEN: 10.00 AM – 8.00 PM

OUR SERVICESถอนฟัน

Photo Credit: https://www.freepik.com/ by rcphotostock

การถอนฟันคืออะไร ทำไมถึงต้องถอน แล้วถ้าไม่ถอนจะเกิดอะไรขึ้น

การถอนฟัน ถึงแม้ฟังดูเป็นเรื่องน่ากลัว แต่ก็ไม่ใช่เรื่องน่ากังวลอย่างที่คิด เพราะการถอนฟันเป็นหนึ่งในวิธีรักษาสุขภาพช่องปาก ทั้งยังช่วยแก้ปัญหาสุขภาพฟันที่อาจลุกลามอย่างได้ผลอีกด้วย

แค่พูดถึง การถอนฟัน ก็ชวนให้รู้สึกเสียวฟันขึ้นมาทันที เราเข้าใจความกังวลของคนไข้ที่ต้องถอนฟันเป็นอย่างดีว่ามักเกิดคำถามขึ้นมามากมายว่า ระหว่างการถอนจะเจ็บมากไหม พอถอนฟันแท้ออกไปแล้วต้องทำตัวอย่างไร จะทิ้งไว้ให้ฟันหลอต่อดีไหม แล้วต้องดูแลตัวเองหลังถอนฟันอย่างไร The Tooth Club จึงรวบรวมทุกเรื่องที่คนไข้ควรรู้เกี่ยวกับการถอนฟันมาไว้ให้ที่นี่ คนไข้จะได้คลายกังวล และเข้าใจการถอนฟันมากยิ่งขึ้น

การถอนฟันสำคัญอย่างไร ทำไมต้องถอน ?

การถอนฟัน เป็นการดูแลรักษาสุขภาพภายในช่องปากรูปแบบหนึ่ง หลังจากที่ทันตแพทย์วินิจฉัยแล้วว่าฟันซี่ที่มีปัญหาไม่สามารถรักษาด้วยทันตกรรมอื่น ๆ ได้อีก หรือมีความเสี่ยงที่อาจติดเชื้อร้ายแรงลุกลาม จึงจะพิจารณาให้ถอนฟันซี่นั้นออก เพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพภายในช่องปาก และฟันซี่อื่น ๆ ได้ โดยสาเหตุที่ต้องถอนฟัน มาจากปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้

  • ฟันผุ ถ้าฟันซี่ที่มีปัญหาผุมาก และถูกทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องเป็นเวลานาน จนทำให้ส่วนที่ผุลุกลามไปยังโพรงประสาทฟัน จะไม่สามารถรักษาด้วยการอุดฟัน หรือรักษารากฟันได้ ยิ่งปล่อยไว้ก็อาจลุกลามไปฟันซี่ข้างเคียงต่อ ทันตแพทย์ก็จะพิจารณาให้ถอนฟันซี่นั้นออก
  • โรคเหงือก หากมีปัญหาโรคเหงือกต่าง ๆ อาทิ โรคปริทันต์ ที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย หรือจุลินทรีย์สะสมบนตัวฟัน จนทำให้เหงือกบวมอักเสบ เหงือกร่น และมีอาการเสียวฟันร่วมด้วย ก็จำเป็นต้องถอนฟันออก
  • ประสบอุบัติเหตุ ในเคสที่คนไข้ประสบอุบัติเหตุจนได้รับความกระทบกระเทือนที่ฟันอย่างรุนแรง ฟันแตกหักจนแก้ไขด้วยทันตกรรมอื่น ๆ ไม่ได้ก็จำเป็นต้องถอนออกแทน
  • การจัดฟัน ในเคสที่คนไข้ต้องจัดฟัน ทันตแพทย์มักวางแผนการรักษาว่าต้องถอนฟันซี่ไหนออกบ้าง จำนวนกี่ซี่เพื่อให้มีช่องว่างในการจัดฟันเพื่อให้ฟันเรียงตัวกันใหม่อย่างสวยงาม และไม่มีปัญหาในอนาคต
  • อยู่ในตำแหน่งที่ฟันขึ้นมาไม่ได้ เช่น ฟันคุด ฟันฝัง หากปล่อยทิ้งไว้อาจก่อให้เกิดปัญหาอื่นได้ ทันตแพทย์ก็จะพิจารณาให้ผ่าตัดเพื่อถอนฟันนั้นออกมา

ถอนฟันมีวิธีใดบ้าง แบบไหนดีที่สุด ?

วิธีการถอนฟัน แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความผิดปกติของฟัน โดยแบ่งเป็น 3 วิธี ดังนี้

  • ถอนฟันด้วยคีมถอนฟัน (Forceps)

เป็นวิธีถอนฟันที่ใช้มากที่สุด เหมาะสำหรับฟันที่มีเนื้อฟันเหลือค่อนข้างมาก และมีรากฟันปกติ ทันตแพทย์จะค่อย ๆ ใช้คีมโยกฟันออกอย่างนุ่มนวล และเบามือจนฟันหลุดออกมาในที่สุด

  • ถอนฟันโดยใช้อิเลเวเตอร์ (Elevator)

อิเลเวเตอร์ เป็นเครื่องมือทันตกรรมที่เหมาะสำหรับการงัด โดยใช้ร่วมกับคีมถอนฟัน ทันตแพทย์จะใช้เทคนิคการงัดฟันในกรณีที่ฟันซี่นั้นเป็นฟันกรามซี่ที่สามทั้งบน และล่าง

  • ถอนฟันด้วยการแบ่งฟัน (Tooth Division)

ซึ่งมีทั้งแบบเปิดเหงือก (Open Technique) และไม่เปิดเหงือก (Trans-Alveolar) เป็นการถอนฟันที่นำตัวฟัน และรากฟันออกมาทีละส่วน เหมาะสำหรับคนไข้ที่มีปัญหาฟันผุมากจนใช้คีมถอนฟันไม่ได้ รากฟันผิดปกติ หรือมีฟันหลายราก

ก่อนถอนฟันควรเตรียมตัวอย่างไร ?

  • แจ้งประวัติด้านสุขภาพแก่ทันตแพทย์ให้ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นยาที่กินอยู่ ประวัติการแพ้ยา โรคประจำตัว วิตามินที่กิน รวมไปถึงแผนการทำทันตกรรมในอนาคต เพื่อให้ทันตแพทย์วางแผนการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสม
  • หากคุณเป็นบุคคลในกลุ่มโรคเบาหวาน เลือดออกง่ายหรือหยุดไหลช้า ลมชัก ความดันโลหิตสูง หอบหืด โรคหัวใจ โรคลูคีเมีย โรคไต เคยกินยาละลายลิ่มเลือด หรือเคยเปลี่ยนลิ้นหัวใจ ไม่ควรถอนฟัน และควรแจ้งทันตแพทย์ก่อนการรักษา
  • ควรกินอาหารมาก่อนล่วงหน้า และดูแลช่องปากให้สะอาดก่อนเข้ารับการรักษา
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อคลายความวิตกกังวล

ขั้นตอนในการถอนฟัน

  • ทันตแพทย์จะยืนยันแผนการรักษากับคนไข้อีกครั้ง พร้อมทั้งระบุตำแหน่งฟันที่จะถอนในครั้งนี้
  • ฉีดยาชาบริเวณฟันที่จะถอน รอประมาณ 5 นาที หรือจนกว่ายาชาจะออกฤทธิ์
  • ถอนฟันซี่ที่มีปัญหาออก ในขั้นตอนนี้ทันตแพทย์จะถอนฟันออกอย่างเบามือจนฟันหลุดออกมา
  • ทันตแพทย์จะให้กัดผ้าก๊อซที่ฆ่าเชื้อเพื่อห้ามเลือด ในบางกรณีอาจมีการเย็บแผลร่วมด้วย ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของทันตแพทย์
  • คนไข้กัดผ้าก็อซต่อเนื่องประมาณ 30-60 นาที เพื่อให้เลือดหยุดไหล
  • ทันตแพทย์ให้คำแนะนำ และข้อควรปฏิบัติในการดูแลตัวเองหลังจากการถอนฟัน

การดูแลหลังการถอนฟัน

  • กัดผ้าก๊อซให้แน่นหลังถอนฟันเพื่อห้ามเลือด
  • ประคบน้ำแข็ง 15-30 นาทีบริเวณที่มีการถอนฟัน เพื่อลดความเจ็บปวด และอาการบวม
  • หากมีอาการปวดหลังยาชาหมดฤทธิ์ สามารถกินยาแก้ปวดได้ตามที่ทันตแพทย์แนะนำ
  • อย่าใช้ลิ้นดุน หรือดูดแผล
  • ไม่ควรบ้วนน้ำ 12 ชั่วโมงหลังจากถอนฟัน
  • หลีกเลี่ยงการใช้หลอดดูดน้ำ 1 สัปดาห์
  • หลีกเลี่ยงการแปรงฟันฝั่งที่มีแผล 1-2 วัน หลังจากนั้นแปรงด้วยความระมัดระวัง เพื่อป้องกันแผลฉีกขาด
  • งดอาหารรสจัด อาหารเผ็ด หรืออาหารร้อนในช่วง 2-3 วันแรก

ถอนฟันราคาเท่าไหร่ ?

ราคาในการถอนฟัน ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของฟัน ขนาด การวางตัว รวมไปถึงปัญหาต่าง ๆ ที่เป็นสาเหตุในการถอนฟัน โดยปกติแล้วราคาของเคสถอนฟันทั่วไปจะเริ่มต้นที่ประมาณ 900-1,000 บาท

ถอนฟันที่ไหนดี

  • คลินิกใกล้บ้าน

เพราะหากพบว่าฟันมีปัญหา การไปพบทันตแพทย์ที่คลินิกใกล้บ้าน จะช่วยให้ได้รับการรักษาที่รวดเร็วมากที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาภายในช่องปากนั้นลุกลามใหญ่โตจนยากเกินการรักษาได้

  • เลือกจากแพทย์ที่เชื่อใจ

ปัญหาที่ทำให้หลายคนไม่อยากไปพบทันตแพทย์เป็นอันดับต้น ๆ ส่วนใหญ่มาจากความไม่เชื่อใจในทันตแพทย์ กลัวเจ็บ และกลัวการรักษา แต่สำหรับที่ The Tooth Club คลินิกทันตกรรมแบบครบวงจรแห่งนี้ ปัญหาความกลัวต่าง ๆ ของคุณจะหมดไป เพราะทีมทันตแพทย์ของเรามีความเชี่ยวชาญในการรักษาทุกปัญหาฟัน ทั้งยังมีประสบการณ์สูง มือเบา รักษาด้วยความรู้ และใส่ใจทุกรายละเอียดของคนไข้ ทันตแพทย์จะปรึกษากับคนไข้ทุกขั้นตอนเพื่อวางแผนการรักษาอย่างละเอียดและแม่นยำ ภายใต้เครื่องมือทันตกรรมที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย เพื่อให้คนไข้ที่มารับการรักษาได้รับประสบการณ์การรักษาที่ดีที่สุด

คำถามอื่น ๆ เกี่ยวกับการถอนฟัน

  • การถอนฟันเบิกประกันสังคมได้หรือไม่

ตอบ ได้ เพราะการถอนฟัน เป็นทันตกรรมที่เกี่ยวกับการรักษาทางการแพทย์ ทางสำนักงานประกันสังคมจะมีวงเงินสำหรับการทำฟันเพื่อการรักษาให้ปีละ 900 บาท โดยผู้รับสิทธิ์จะต้องจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 เดือน

  • ถอนฟันใช้เวลาประมาณกี่นาที ใช้เวลาพักฟื้นกี่วัน

ตอบ หลังจากยาชาออกฤทธิ์แล้ว ทันตแพทย์จะทำการถอนฟันที่เป็นปัญหาออก โดยปกติจะใช้เวลาไม่กี่นาที หลังจากถอนฟันแล้ว คนไข้จะใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 1 เดือนแผลจึงจะสมานกันสนิท โดยในช่วง 12 ชั่วโมงแรก คนไข้จะรู้สึกปวด และตึงเนื่องจากฤทธิ์ยาชาหมดแล้ว และอาการปวดตึงจะหายไปเองภายใน 1 วัน

  • ถอนฟันแล้วไม่อยากฟันหลอ ทำอย่างไรได้บ้าง

ตอบ หลังจากถอนฟันไปแล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้ฟันล้ม หรือเคลื่อนไปยังช่องว่างจนเกิดปัญหาสุขภาพในช่องปาก ควรรีบทำทันตกรรมเพื่อนำฟันซี่ใหม่เข้ามาแทนที่โดยวิธีการต่าง ๆ ได้แก่ การทำรากฟันเทียม การทำสะพานฟัน และการทำฟันปลอม ซึ่งวิธีที่เหมาะสมที่สุดจะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของทันตแพทย์ที่ดูแลเคส