clock OPEN: 10.00 AM – 8.00 PM

OUR SERVICESทำฟันเด็ก

Photo Credit: https://www.freepik.com/ by penquine

การทำฟันเด็กคืออะไร อายุเท่าไรถึงทำฟันได้

การทำฟันเด็กมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อพัฒนาการของลูกน้อย แม้เราจะคิดว่าฟันน้ำนมไม่สำคัญเท่าฟันแท้ แต่หากไม่ดูแลรักษาให้ดี อาจมีปัญหาสุขภาพช่องปากตามมาได้เช่นกัน

แน่นอนว่าเด็กยังไม่มีความรู้ และไม่ทราบวิธีการดูแลฟันอย่างถูกต้อง จึงเป็นหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องหมั่นดูแล สร้างพฤติกรรมที่ดีในการดูแลช่องปากอย่างสม่ำเสมอ ฟันที่แข็งแรงย่อมเสริมให้สุขภาพของลูกแข็งแรงด้วยเช่นกัน ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่อย่าได้นิ่งนอนใจต่อสุขภาพช่องปากของลูก และควรหมั่นไปพบทันตแพทย์อย่างต่อเนื่องตามช่วงอายุที่ทันตแพทย์แนะนำ

การทำฟันเด็กคืออะไร ต้องทำอะไรบ้าง

การทำฟันเด็ก (Pedodontics) เป็นทันตกรรมเฉพาะทางสำหรับเด็กจนถึงวัยรุ่นตอนต้น ประกอบด้วยการดูแลรักษา การป้องกัน และการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับสุขภาพภายในช่องปาก และฟันโดยทันตแพทย์ ซึ่งทันตแพทย์จะใช้หลักจิตวิทยา และวิธีสื่อสารเพื่อสร้างให้เด็กมีพฤติกรรม และทัศนคติที่ดีต่อการเอาใจใส่สุขภาพช่องปากของตัวเอง

การตรวจพบปัญหาของฟันในระยะแรกเริ่ม เช่น ฟันผุ เหงือกบวมหรือฟันเก ทันตแพทย์จะมีแนวทางการรักษาที่ช่วยลดอาการเจ็บปวด รวมทั้งลดค่าใช้จ่ายที่สูงในอนาคตได้ โดยบริการทันตกรรมเด็กมีดังนี้

  • ตรวจสุขภาพฟัน และให้คำแนะนำ ทันตแพทย์จะตรวจดูพัฒนาการของฟันในแต่ละช่วงอายุ การเจริญเติบโตของขากรรไกรร่วมกับฟัน รวมทั้งตรวจดูปัญหาฟันผุ ฟันเก ดูแลฟันน้ำนมที่กำลังจะหลุด และดูแลฟันแท้ที่ควรขึ้นตามวัย ปูพื้นฐานในการดูแลรักษาสุขภาพช่องปากอย่างถูกต้อง
  • เคลือบฟลูออไรด์ และการเคลือบหลุมร่องฟัน ทันตแพทย์จะช่วยเสริมความแข็งแรงของฟันด้วยการเคลือบฟลูออไรด์ เพื่อยับยั้งแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุของโรคฟันผุในภายหลัง ส่วนการเคลือบหลุมร่องฟันจะนิยมเคลือบบริเวณฟันกราม เพราะเป็นส่วนที่มีร่องลึก และทำความสะอาดได้ยาก ลดการสะสมของเศษอาหารที่ติดตามร่องฟันได้
  • การขูดหินปูน การขูดหินปูนเป็นหนึ่งในวิธีการทำความสะอาดฟัน ลดการเกิดโรคฟันผุ โรคเหงือก และกลิ่นปากได้ โดยจะขัดคราบหินปูที่เกาะอยู่ตามซอกฟันให้หลุดออก
  • การอุดฟัน หากไม่ดูแลสุขภาพช่องปากอย่างต่อเนื่อง อาจทำให้ลูกเป็นโรคฟันผุได้ ทันตแพทย์จึงจำเป็นต้องอุดฟันน้ำนม ซ่อมแซมเนื้อฟันที่ผุให้กลับมาแข็งแรง ใช้งานได้ตามปกติ
  • การถอนฟัน เป็นวิธีสุดท้ายที่ทันตแพทย์พิจารณาในการรักษาสุขภาพช่องปากของเด็ก ส่วนใหญ่ทันตแพทย์มักตัดสินใจถอนฟันในเคสที่ค่อนข้างร้ายแรงจนไม่สามารถรักษาฟันซี่นั้น ๆ ไว้ได้ เช่น ฟันผุลึกไปถึงโพรงประสาท หรือฟันแท้งอกแทรกฟันน้ำนมที่ยังไม่หลุด ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมาภายหลัง
  • การครอบฟัน หากฟันของเด็กมีการแตก หัก หรือบิ่น ทันตแพทย์จะใช้วัสดุแทนฟันธรรมชาติ ครอบสวมฟันที่มีปัญหาทั้งซี่ โดยไม่จำเป็นต้องถอนฟันน้ำนมออก ฟันซี่นั้นจะกลับมาใช้งานได้ตามปกติ เมื่อฟันน้ำนมหลุด วัสดุครอบฟันจะหลุดออกมาด้วยเช่นกัน
  • การรักษารากฟัน เป็นการรักษาฟันที่ผุลึกไปถึงโพรงประสาท ด้วยการตัดเนื้อเยื่อที่อักเสบออก ทำความสะอาด และอุดฟัน เพื่อรักษาฟันน้ำนมซี่นั้นไว้ จนกว่าฟันแท้จะงอกขึ้นมา
  • การจัดฟัน เป็นการรักษาในเด็กที่มีปัญหาฟันเก ฟันล้ม ฟันซ้อน ฟันหน้ายื่นผิดปกติ หรือฟันห่าง อาจส่งผลต่อการจัดระเบียบรูปฟันที่ไม่ถูกต้อง ทำให้เด็กมีปัญหาในการใช้ชีวิตประจำวันได้

การทำฟันเด็กต่างจากการทำฟันผู้ใหญ่อย่างไร

เนื่องจากโครงสร้าง และเนื้อของฟันน้ำนมของเด็กต่างจากฟันแท้ของผู้ใหญ่ ทำให้ฟันน้ำนมมีโอกาสเป็นโรคฟันผุได้ง่ายกว่า ดังนั้น ทันตกรรมเด็กจะเน้นไปที่การดูแลรักษา ป้องกันโรคฟันผุ และเสริมสร้างพฤติกรรมให้เด็กๆ เอาใจใส่ทำความสะอาดช่องปากอย่างสม่ำเสมอ เด็กโดยทั่วไปจะไม่ให้ความร่วมมือในการรักษา จำเป็นต้องพบทันตแพทย์สำหรับเด็กที่มีประสบการณ์การรับมือกับเด็กโดยเฉพาะ มีการใช้จิตวิทยาพูดคุย ชักชวนให้ทำตามคำสั่ง โดยไม่รู้สึกว่าบังคับมากจนเกินไป ไม่สร้างบาดแผลทางจิตใจ จนทำให้เด็กวิตกกังวลเมื่อต้องมาพบทันตแพทย์ภายหลัง

เด็กอายุเท่าไรถึงเริ่มพบทันตแพทย์ได้

ผู้ปกครองพาเด็กไปพบทันตแพทย์ได้ทันทีเมื่อฟันน้ำนมซี่แรกขึ้น โดยทั่วไปจะขึ้นตั้งแต่ก่อนหนึ่งขวบ ส่วนใหญ่ทันตแพทย์จะมุ่งเน้นไปที่การป้องกันฟันผุของเด็ก เพราะเด็กมักชอบกินขนมหวาน และน้ำตาล หรือดื่มนมก่อนเข้านอน สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้เด็กเกิดอาการฟันผุได้ง่าย หากไม่ดูแลรักษาให้ดี

การพาลูกมาพบทันตแพทย์ตั้งแต่อายุน้อย จะช่วยเสริมสร้างพฤติกรรมที่ดีให้กับเด็กได้ ไม่ว่าจเป็นการเรียนรู้วิธีการแปรงฟันที่ถูกต้อง การดูแลรักษาช่องปาก หลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารบางชนิดเพื่อป้องกันฟันผุ รวมทั้งยังช่วยลดความหวาดกลัวหรือความกังวลต่อการทำฟันเมื่อโตขึ้นอีกด้วย

การเตรียมตัวเด็กก่อนตรวจฟัน

  • ควรงดอาหารอย่างน้อย 2 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกคลื่นไส้ หรืออาเจียนระหว่างทำฟัน
  • คุณพ่อคุณแม่บางท่านอาจใช้วิธีการพูดคุยกับเด็กเพื่อคลายความกังวล หรืออ่านนิทานเพื่อสร้างทัศนคติที่ดีต่อการมาพบทันตแพทย์
  • หลีกเลี่ยงการขู่ให้เด็กกลัว เพราะจะยิ่งกระตุ้นให้เด็กไม่ให้ความร่วมมือในการตรวจรักษา
  • ไม่ควรหลอกว่าจะพาไปเที่ยว เพราะเป็นการสร้างความคาดหวังที่ผิด เด็กจะไม่เชื่อใจ และไม่อยากมาพบทันตแพทย์ตามเวลานัดหมาย
  • เสริมสร้างพฤติกรรมการแปรงฟันที่ดีให้ลูกตั้งแต่ยังเล็ก

วิธีรับมือถ้าเด็กมีประสบการณ์ไม่ดีในการทำฟันมาก่อน

ประสบการณ์ไม่ดีของเด็กมักมาจากความกลัว ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่มีส่วนอย่างมากในการปรับเปลี่ยนทัศนคติที่ไม่ดีของเด็กต่อทันตแพทย์ ไม่ว่าจะเป็นการพูดความจริงว่าจะมาหาหมอฟัน การให้กำลังใจระหว่างลูกกำลังตรวจฟัน ส่งเสริมการอ่านหนังสือหรือการ์ตูนเกี่ยวกับการดูแลรักษาฟัน การพบทันตแพทย์เป็นประจำ การชื่นชมเมื่อเด็กแปรงฟันได้เอง สิ่งเหล่านี้จะช่วยลดความกังวล และความกลัวของลูกได้

คำถามที่พบบ่อย

  • ทันตแพทย์จะตรวจดูอะไรบ้างเมื่อพาเด็กไปพบทันตแพทย์ครั้งแรก

ตอบ ส่วนใหญ่จะตรวจดูสุขภาพช่องปาก การงอกของฟันน้ำนม การเรียงตัวของรูปฟัน แนะนำวิธีการแปรงฟันที่ถูกต้องให้กับผู้ปกครอง รวมทั้งแนะนำให้เลี่ยงอาหารที่อาจทำให้เกิดฟันผุ

  • ควรพาเด็กไปพบทันตแพทย์บ่อยแค่ไหน

ตอบ ควรพาไปพบทันตแพทย์ทุก 6 เดือน เพื่อตรวจสุขภาพฟัน และเคลือบฟลูออไรด์ป้องกันฟันผุ รวมทั้งติดตามการงอกของฟันอย่างใกล้ชิด