“รอยยิ้ม” เป็นสิ่งแรกที่สามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้อื่นได้ แต่ถ้าหากเจ้าของรอยยิ้มนั้นไม่มั่นใจในรอยยิ้มของตัวเอง เพราะว่ามีปัญหาฟันต่าง ๆ เช่น ฟันเหลือง ฟันบิ่น ฟันหัก ฟันแตก หรือฟันไม่เท่ากัน หนึ่งในทางเลือกในการแก้ปัญหานี้ คือ การทำ “วีเนียร์” (Dental Veneer) วันนี้ The Tooth Club จึงอยากพาทุกคนไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับวีเนียร์กันว่าช่วยให้ฟันกลับมาสวยงามได้อย่างไร และทำไมดารากับอินฟลูเอนเซอร์ต่างนิยมทำวีเนียร์กัน
วีเนียร์ คือ หัตถการที่ใช้ในการแก้ไขรูปทรง ขนาด และสีสันของฟันที่มีปัญหา เช่น ฟันเหลือง ฟันไม่เท่ากัน ฟันแตก ฟันบิ่น ฟันห่าง หรือปัญหาฟันต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อความสวยงาม การเรียงตัว หรือการใช้งานของฟัน โดยวีเนียร์นั้นทำมาจากคอมโพสิท (Composite) หรือเซรามิก (Ceramic) ที่ถูกออกแบบมาให้มีรูปทรง ขนาด และสีสันที่มีความคล้ายคลึงกับฟันธรรมชาติ เพื่อติดบริเวณด้านหน้าของฟันให้แนบสนิทกับผิวฟันได้อย่างพอดี และได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม เหมาะสมกับรูปปาก และโครงสร้างหน้าของคนไข้ รวมถึงสามารถช่วยป้องกันการทำลายผิวฟัน และลดความเสียหายของฟันที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ด้วย
สำหรับอายุการใช้งานของวีเนียร์นั้น ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ในการผลิต หากเป็นวีเนียร์คอมโพสิทจะมีอายุการใช้งานประมาณ 10-15 ปี แต่ถ้าเป็นวีเนียร์เซรามิกจะมีอายุการใช้งานประมาณ 5-7 ปี ซึ่งคนไข้ควรดูแลรักษาวีเนียร์ตามที่ทันตแพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อยืดอายุการใช้งานของวีเนียร์ และช่วยรักษารอยยิ้มที่สวยงามไว้ได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น
เช่น ฟันเหลือง ฟันดำ ฟันคล้ำ สีฟันไม่สม่ำเสมอ ฟันตกกระ ฟันขาวด่าง หรือเคยรักษาฟันแล้วสีฟันไม่เหมือนกับฟันซี่อื่น ๆ สามารถแก้ไขด้วยการทำวีเนียร์ได้ เพราะวีเนียร์เป็นการติดวัสดุบริเวณด้านหน้าของฟัน ทำให้สีฟันดูสม่ำเสมอ
เช่น ฟันเล็ก ฟันสั้น ฟันซ้อนเก ฟันเสียหาย ฟันแตกหัก ผิวฟันไม่เรียบ ขนาดฟันไม่สมส่วน ปลายฟันไม่เท่ากัน หรือรูปร่างฟันไม่สวย สามารถทำวีเนียร์เพื่อออกแบบรูปร่างของฟัน หรือขนาดของฟันได้ตามต้องการ
หรือมีช่องว่างระหว่างฟัน ที่ทำให้เกิดความไม่มั่นใจ และทำให้มีปัญหาในการรับประทานอาหาร เช่น เคี้ยวอาหารได้ไม่ดี หรือมีเศษอาหารติดตามร่องฟัน หากปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพฟันอื่น ๆ ตามมา เช่น ฟันผุ หรือมีกลิ่นปาก เป็นต้น
หรือผู้ที่ฟันได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็นในระดับความรุนแรงน้อย หรือมาก ควรทำการรักษาหรือแก้ไขให้เร็วที่สุด เพราะถ้าหากปล่อยทิ้งไว้ อาจทำให้เกิดอาการเสียวฟันที่เกิดจากชั้นเคลือบฟัน และเนื้อฟันหายไป จนลุกลามไปยังประสาทฟัน หรือชั้นโพรงประสาทฟันได้ และในบางกรณีอาจร้ายแรงจนถึงขั้นฟันตายโดยที่ฟันไม่ผุอีกด้วย
เช่น ไม่สามารถออกเสียงพยัญชนะบางตัวได้ หรือลักษณะฟันผิดปกติจนทำให้ไม่สามารถพูดได้ชัดเจน ก็สามารถแก้ไขได้ด้วยวีเนียร์ เพราะวีเนียร์สามารถปรับรูปทรง และขนาดของฟันเให้เหมาะสมกับช่องปาก ช่วยให้ออกเสียงได้อย่างชัดเจน และเสริมความมั่นใจในการพูดได้
การทำวีเนียร์สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ คอมโพสิท วีเนียร์ และพอร์ซเลน วีเนียร์ ที่มีความแตกต่างกันทั้งในเรื่องของวัสดุ อายุการใช้งาน ข้อดี-ข้อเสีย ค่าใช้จ่าย และรายละเอียดอื่น ๆ ดังนี้
คือ การทำวีเนียร์ที่ใช้วัสดุเรซินคอมโพสิท (Composite Resin) ซึ่งเป็นวัสดุเซรามิคคุณภาพสูง มีสีคล้ายกับฟันจริง แต่จะไม่มีความเงา และความใส เหมาะกับผู้ที่ต้องการทดลองทำวีเนียร์ มีงบประมาณจำกัด หรือมีเวลาจำกัด เพราะการทำคอมโพสิทวีเนียร์เปราะ หรือแตกหักได้ง่าย และมีอายุการใช้งานประมาณ 5-10 ปี มีค่าใช้จ่ายในการทำประมาณ 5,000 บาทต่อซี่ และสามารถทำการรักษาให้เสร็จได้ภายในวันเดียว
คือ การทำวีเนียร์ที่ใช้วัสดุเซรามิก (Ceramic) ที่มีความแข็งแรง ทนทาน ไม่มีการเปลี่ยนสี สามารถเลือกเฉดสีได้ รวมถึงมีความเงา และความใสคล้ายกับฟันธรรมชาติ โดยการผลิตชิ้นงานที่ใช้ในการทำพอร์ซเลน วีเนียร์นั้น จะผลิตขึ้นที่แล็บทันตกรรมที่มีมาตรฐาน และมีความเชี่ยวชาญเท่านั้น เหมาะกับผู้ที่ไม่อยากเสียเวลาทำวีเนียร์ใหม่บ่อย ๆ ไม่รีบใช้งาน ต้องการฟันที่มีความเป็นธรรมชาติ หรือผู้ที่มีงบประมาณในการทำวีเนียร์แบบไม่จำกัด มีอายุการใช้งานนาน 10-15 ปี หรือถ้าหากดูแลรักษาเป็นอย่างดีก็สามารถอยู่ได้ตลอดชีวิต มีค่าใช้จ่ายในการทำประมาณ 12,000-18,000 บาทต่อซี่
ก่อนเข้ารับการทำวีเนียร์ ควรทำการศึกษาถึงรายละเอียดต่างๆ ในการทำวีเนียร์ เพื่อที่จะได้นำข้อมูลมาประกอบการตัดสินใจในการทำวีเนียร์ และเตรียมตัวให้พร้อม โดยการเตรียมตัวก่อนเข้ารับการทำวีเนียร์ที่ควรรู้ไว้ มีดังนี้
เพื่อบอกความต้องการในการทำวีเนียร์ว่าอยากได้รอยยิ้มแบบไหน เพื่อให้ทันตแพทย์แนะนำทางเลือกในการทำวีเนียร์ว่าควรเลือกใช้วีเนียร์ประเภทไหนถึงจะเหมาะสมกับปัญหาของคนไข้มากที่สุด
ทันต์แพทย์จะตรวจสุขภาพเหงือก และฟัน พร้อมทั้งถ่ายภาพช่องปาก รอยยิ้ม และใบหน้าของคนไข้ รวมถึงเอกซเรย์ฟัน เพื่อวิเคราะห์ และวางแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุด จากนั้นจะทำการพิมพ์ฟันเพื่อทำวีเนียร์ชั่วคราว
ทันตแพทย์จะกรอผิวฟันออกเล็กน้อย ประมาณ 0.5-1 มิลลิเมตร เพื่อให้ใส่วีเนียร์ได้พอดี และไม่หนาเทอะทะ จากนั้นจะพิมพ์ฟันอีกครั้ง และเลือกสีฟันร่วมกับคนไข้ หลังเลือกสีฟันแล้วทันตแพทย์จะส่งผลิตวีเนียร์จริง ใช้เวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์ ระหว่างรอทันตแพทย์จะติดวีเนียร์ชั่วคราวให้ก่อนเพื่อให้คนไข้คุ้นชินกับวีเนียร์มากขึ้น
เมื่อวีเนียร์ตัวจริงผลิตเรียบร้อยแล้ว ทันตแพทย์จะนัดหมายให้เข้ามาติดวีเนียร์ตัวจริง โดยขั้นตอนนี้ทันตแพทย์อาจจะมีการปรับแต่งชิ้นงานวีเนียร์เพื่อให้พอดีกับฟันจริง และสามารถกัดเคี้ยวได้อย่างปกติร่วมด้วย
หลังจากคนไข้ติดวีเนียร์ประมาณ 1-2 สัปดาห์ ทันตแพทย์จะนัดหมายให้เข้ามาติดตามผลอีกครั้ง รวมไปถึงตรวจสอบสภาพวีเนียร์ สุขภาพเหงือก ฟัน และช่องปาก พร้อมกับถ่ายภาพช่องปาก รอยยิ้ม และใบหน้าของคนไข้ไว้เพื่อเปรียบเทียบก่อนทำ และหลังทำวีเนียร์ว่าแตกต่างกันอย่างไร
ตอบ วีเนียร์สามารถทำได้มากกว่า 1 ซี่ ตามปัญหาของแต่ละคน ควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อวางแผนการรักษา และแจ้งความต้องการร่วมกัน เพื่อออกแบบรอยยิ้มให้สวยงามเหมาะสมกับคนไข้มากที่สุด
ตอบ การทำวีเนียร์จำเป็นต้องอยู่ภายใต้การดูแลของทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์เท่านั้น เพราะวีเนียร์เป็นการแก้ปัญหาของฟัน และออกแบบรอยยิ้มให้สวยงาม หากทำกับคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐานอาจส่งผลให้สุขภาพฟันแย่กว่าเดิม มีรูปฟันไม่สวย ไม่เข้ากับใบหน้า และอาจส่งผลข้างเคียงร้ายแรงในอนาคตได้อีกด้วย
ตอบ เพราะวีเนียร์ทำจากวัสดุที่ค่อนข้างบาง จึงอาจเกิดการแตก ร้าว หรือบิ่นได้ง่าย หากคนไข้พบรอยร้าว หรือรอยแตก แนะนำให้มาพบทันตแพทย์โดยเร็วที่สุด หากเสียหายไม่มากสามารถซ่อมให้กลับมาสวยดังเดิมได้ แต่ถ้าทันตแพทย์วินิจฉัยว่าเสียหายหนัก อาจต้องทำใหม่มาทดแทน