clock OPEN: 10.00 AM – 8.00 PM

OUR SERVICESวีเนียร์

วีเนียร์คืออะไร ทางเลือกฟันสวยดั่งดารา

“รอยยิ้ม” เป็นสิ่งแรกที่สามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้อื่นได้ แต่ถ้าหากเจ้าของรอยยิ้มนั้นไม่มั่นใจในรอยยิ้มของตัวเอง เพราะว่ามีปัญหาฟันต่าง ๆ เช่น ฟันเหลือง ฟันบิ่น ฟันหัก ฟันแตก หรือฟันไม่เท่ากัน หนึ่งในทางเลือกในการแก้ปัญหานี้ คือ การทำ “วีเนียร์” (Dental Veneer) วันนี้ The Tooth Club จึงอยากพาทุกคนไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับวีเนียร์กันว่าช่วยให้ฟันกลับมาสวยงามได้อย่างไร และทำไมดารากับอินฟลูเอนเซอร์ต่างนิยมทำวีเนียร์กัน

การทำวีเนียร์คืออะไร ?

วีเนียร์ คือ หัตถการที่ใช้ในการแก้ไขรูปทรง ขนาด และสีสันของฟันที่มีปัญหา เช่น ฟันเหลือง ฟันไม่เท่ากัน ฟันแตก ฟันบิ่น ฟันห่าง หรือปัญหาฟันต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อความสวยงาม การเรียงตัว หรือการใช้งานของฟัน โดยวีเนียร์นั้นทำมาจากคอมโพสิท (Composite) หรือเซรามิก (Ceramic) ที่ถูกออกแบบมาให้มีรูปทรง ขนาด และสีสันที่มีความคล้ายคลึงกับฟันธรรมชาติ เพื่อติดบริเวณด้านหน้าของฟันให้แนบสนิทกับผิวฟันได้อย่างพอดี และได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม เหมาะสมกับรูปปาก และโครงสร้างหน้าของคนไข้ รวมถึงสามารถช่วยป้องกันการทำลายผิวฟัน และลดความเสียหายของฟันที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ด้วย

สำหรับอายุการใช้งานของวีเนียร์นั้น ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ในการผลิต หากเป็นวีเนียร์คอมโพสิทจะมีอายุการใช้งานประมาณ 10-15 ปี แต่ถ้าเป็นวีเนียร์เซรามิกจะมีอายุการใช้งานประมาณ 5-7 ปี ซึ่งคนไข้ควรดูแลรักษาวีเนียร์ตามที่ทันตแพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อยืดอายุการใช้งานของวีเนียร์ และช่วยรักษารอยยิ้มที่สวยงามไว้ได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น

5 ปัญหาที่วีเนียร์แก้ได้ มีอะไรบ้าง 

  • ผู้ที่มีปัญหาเรื่องสีสันของฟัน

เช่น ฟันเหลือง ฟันดำ ฟันคล้ำ สีฟันไม่สม่ำเสมอ ฟันตกกระ ฟันขาวด่าง หรือเคยรักษาฟันแล้วสีฟันไม่เหมือนกับฟันซี่อื่น ๆ สามารถแก้ไขด้วยการทำวีเนียร์ได้  เพราะวีเนียร์เป็นการติดวัสดุบริเวณด้านหน้าของฟัน ทำให้สีฟันดูสม่ำเสมอ

  • ผู้ที่มีปัญหาเรื่องรูปทรงของฟัน

เช่น ฟันเล็ก ฟันสั้น ฟันซ้อนเก ฟันเสียหาย ฟันแตกหัก ผิวฟันไม่เรียบ ขนาดฟันไม่สมส่วน ปลายฟันไม่เท่ากัน หรือรูปร่างฟันไม่สวย สามารถทำวีเนียร์เพื่อออกแบบรูปร่างของฟัน หรือขนาดของฟันได้ตามต้องการ

  • ผู้ที่มีปัญหาเรื่องฟันห่าง

หรือมีช่องว่างระหว่างฟัน ที่ทำให้เกิดความไม่มั่นใจ และทำให้มีปัญหาในการรับประทานอาหาร เช่น เคี้ยวอาหารได้ไม่ดี หรือมีเศษอาหารติดตามร่องฟัน หากปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพฟันอื่น ๆ ตามมา เช่น ฟันผุ หรือมีกลิ่นปาก เป็นต้น

  • ผู้ที่ฟันมีความเสียหายบิ่นหรือแตกหัก

หรือผู้ที่ฟันได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็นในระดับความรุนแรงน้อย หรือมาก ควรทำการรักษาหรือแก้ไขให้เร็วที่สุด เพราะถ้าหากปล่อยทิ้งไว้ อาจทำให้เกิดอาการเสียวฟันที่เกิดจากชั้นเคลือบฟัน และเนื้อฟันหายไป จนลุกลามไปยังประสาทฟัน หรือชั้นโพรงประสาทฟันได้ และในบางกรณีอาจร้ายแรงจนถึงขั้นฟันตายโดยที่ฟันไม่ผุอีกด้วย

  • ผู้ที่มีความบกพร่องในการพูดจากความไม่ปกติของฟัน

เช่น ไม่สามารถออกเสียงพยัญชนะบางตัวได้ หรือลักษณะฟันผิดปกติจนทำให้ไม่สามารถพูดได้ชัดเจน ก็สามารถแก้ไขได้ด้วยวีเนียร์ เพราะวีเนียร์สามารถปรับรูปทรง และขนาดของฟันเให้เหมาะสมกับช่องปาก ช่วยให้ออกเสียงได้อย่างชัดเจน และเสริมความมั่นใจในการพูดได้

วีเนียร์มีกี่ประเภทอะไรบ้าง ?​

การทำวีเนียร์สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ คอมโพสิท วีเนียร์ และพอร์ซเลน วีเนียร์ ที่มีความแตกต่างกันทั้งในเรื่องของวัสดุ อายุการใช้งาน ข้อดี-ข้อเสีย ค่าใช้จ่าย และรายละเอียดอื่น ๆ ดังนี้

คอมโพสิท วีเนียร์ (Composite Veneer)

คือ การทำวีเนียร์ที่ใช้วัสดุเรซินคอมโพสิท (Composite Resin) ซึ่งเป็นวัสดุเซรามิคคุณภาพสูง มีสีคล้ายกับฟันจริง แต่จะไม่มีความเงา และความใส เหมาะกับผู้ที่ต้องการทดลองทำวีเนียร์ มีงบประมาณจำกัด หรือมีเวลาจำกัด เพราะการทำคอมโพสิทวีเนียร์เปราะ หรือแตกหักได้ง่าย และมีอายุการใช้งานประมาณ 5-10 ปี มีค่าใช้จ่ายในการทำประมาณ 5,000 บาทต่อซี่ และสามารถทำการรักษาให้เสร็จได้ภายในวันเดียว

ข้อดีของคอมโพสิทวีเนียร์
  • ค่าใช้จ่ายถูกกว่าพอร์ซเลนวีเนียร์
  • มีความเป็นธรรมชาติ
  • หากชิ้นงานได้รับความเสียหายสามารถซ่อมแซมได้
  • มีขั้นตอนการรักษาที่สามารถทำได้ภายในวันเดียว
ข้อเสียของคอมโพสิทวีเนียร์
  • มีความแข็งแรงน้อยกว่าวัสดุประเภทพอร์ซเลน วีเนียร์
  • มีความใสของฟันน้อย ดูไม่เป็นธรรมชาติ
  • ดูดสี ดูดกลิ่น ทำไปนาน ๆ อาจทำให้มีกลิ่นปาก

พอร์ซเลน วีเนียร์ (Porcelain Veneer)

คือ การทำวีเนียร์ที่ใช้วัสดุเซรามิก (Ceramic) ที่มีความแข็งแรง ทนทาน ไม่มีการเปลี่ยนสี สามารถเลือกเฉดสีได้ รวมถึงมีความเงา และความใสคล้ายกับฟันธรรมชาติ โดยการผลิตชิ้นงานที่ใช้ในการทำพอร์ซเลน วีเนียร์นั้น จะผลิตขึ้นที่แล็บทันตกรรมที่มีมาตรฐาน และมีความเชี่ยวชาญเท่านั้น เหมาะกับผู้ที่ไม่อยากเสียเวลาทำวีเนียร์ใหม่บ่อย ๆ ไม่รีบใช้งาน ต้องการฟันที่มีความเป็นธรรมชาติ หรือผู้ที่มีงบประมาณในการทำวีเนียร์แบบไม่จำกัด มีอายุการใช้งานนาน 10-15 ปี หรือถ้าหากดูแลรักษาเป็นอย่างดีก็สามารถอยู่ได้ตลอดชีวิต มีค่าใช้จ่ายในการทำประมาณ 12,000-18,000 บาทต่อซี่

ข้อดีของพอร์ซเลน วีเนียร์
  • มีอายุการใช้งานนานกว่าคอมโพสิทวีเนียร์
  • มีความเป็นธรรมชาติคล้ายกับฟันจริงมากที่สุด
  • มีความแข็งแรง และทนทานสูง
  • ผลิตจากแล็บทันตกรรมที่มีความชำนาญเฉพาะทาง
  • มีโอกาสที่สีของอาหารจะติดฟันน้อยมาก หรือไม่มีเลย
  • สามารถเลือกเฉดความขาวของสีฟันได้หลายระดับ
ข้อเสียของพอร์ซเลนวีเนียร์
  • ค่าใช้จ่ายสูงกว่าคอมโพสิทวีเนียร์
  • ไม่สามารถซ่อมแซมได้ และต้องทำชิ้นงานใหม่เท่านั้น
  • ใช้เวลาในการผลิตชิ้นงานประมาณ 1-2 สัปดาห์

ก่อนทำวีเนียร์ต้องเตรียมตัวอย่างไร ?

ก่อนเข้ารับการทำวีเนียร์ ควรทำการศึกษาถึงรายละเอียดต่างๆ ในการทำวีเนียร์ เพื่อที่จะได้นำข้อมูลมาประกอบการตัดสินใจในการทำวีเนียร์ และเตรียมตัวให้พร้อม โดยการเตรียมตัวก่อนเข้ารับการทำวีเนียร์ที่ควรรู้ไว้ มีดังนี้

  • ศึกษาเกี่ยวกับข้อมูลการทำวีเนียร์เบื้องต้น เช่น มีกี่ประเภท ช่วยแก้ปัญหาอะไร หรือเหมาะกับใครบ้าง เป็นต้น
  • ปรึกษากับทันตแพทย์เบื้องต้นถึงปัญหาฟันที่มีความกังวล หรือความต้องการในการทำวีเนียร์อย่างชัดเจน
  • เลือกคลินิกทันตกรรมที่ทำการรักษาโดยทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ในการทำวีเนียร์โดยเฉพาะ
  • หาข้อมูลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการทำวีเนียร์เบื้องต้น เช่น ทำวีเนียร์ราคาเท่าไหร่ มีขั้นตอนอะไรบ้าง หรือมีค่าใช้จ่ายแฝงอื่นๆ เพิ่มหรือไม่ เป็นต้น
  • ถ้าหากตัดสินใจทำวีเนียร์ ก็จะต้องทำการเคลียร์ช่องปากให้เรียบร้อย เช่น ฟันผุ เหงือกอักเสบ หรือปัญหาสุขภาพช่องปากอื่นๆ

การดูแลรักษาหลังทำวีเนียร์ต้องทำอย่างไร ?

  • ในผู้ที่นอนกัดฟัน ทันตแพทย์จะแนะนำให้ใส่การ์ดเพื่อไม่ให้กัดวีเนียร์แตก
  • แปรงฟันให้สะอาด และถูกวิธี โดยเฉพาะบริเวณขอบเหงือก
  • ใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำ อย่างน้อยวันละ 1-2 ครั้ง
  • หลีกเลี่ยงการกัด แทะ หรือเคี้ยวอาหารแข็ง หรือเหนียว
  • หลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มสีเข้ม แต่ในกรณีที่จำเป็นต้องดื่ม สามารถดื่มได้ แต่ควรทำความสะอาดช่องปาก และฟันหลังดื่มทันที
  • เข้าพบทันตแพทย์เป็นประจำทุก ๆ 6 เดือน
  • หากวีเนียร์มีรอยแตก ร้าว หลวม หรือเปลี่ยนสี ควรเข้าพบทันตแพทย์ให้เร็วที่สุด

ขั้นตอนในการทำวีเนียร์​

  • ปรึกษาทันตแพทย์

เพื่อบอกความต้องการในการทำวีเนียร์ว่าอยากได้รอยยิ้มแบบไหน เพื่อให้ทันตแพทย์แนะนำทางเลือกในการทำวีเนียร์ว่าควรเลือกใช้วีเนียร์ประเภทไหนถึงจะเหมาะสมกับปัญหาของคนไข้มากที่สุด

  • ตรวจสุขภาพช่องปาก

ทันต์แพทย์จะตรวจสุขภาพเหงือก และฟัน พร้อมทั้งถ่ายภาพช่องปาก รอยยิ้ม และใบหน้าของคนไข้ รวมถึงเอกซเรย์ฟัน เพื่อวิเคราะห์ และวางแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุด จากนั้นจะทำการพิมพ์ฟันเพื่อทำวีเนียร์ชั่วคราว

  • เตรียมผิวฟัน

ทันตแพทย์จะกรอผิวฟันออกเล็กน้อย ประมาณ 0.5-1 มิลลิเมตร เพื่อให้ใส่วีเนียร์ได้พอดี และไม่หนาเทอะทะ จากนั้นจะพิมพ์ฟันอีกครั้ง และเลือกสีฟันร่วมกับคนไข้ หลังเลือกสีฟันแล้วทันตแพทย์จะส่งผลิตวีเนียร์จริง ใช้เวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์ ระหว่างรอทันตแพทย์จะติดวีเนียร์ชั่วคราวให้ก่อนเพื่อให้คนไข้คุ้นชินกับวีเนียร์มากขึ้น

  • ติดวีเนียร์

เมื่อวีเนียร์ตัวจริงผลิตเรียบร้อยแล้ว ทันตแพทย์จะนัดหมายให้เข้ามาติดวีเนียร์ตัวจริง โดยขั้นตอนนี้ทันตแพทย์อาจจะมีการปรับแต่งชิ้นงานวีเนียร์เพื่อให้พอดีกับฟันจริง และสามารถกัดเคี้ยวได้อย่างปกติร่วมด้วย

  • ประเมิน และติดตามผล

หลังจากคนไข้ติดวีเนียร์ประมาณ 1-2 สัปดาห์ ทันตแพทย์จะนัดหมายให้เข้ามาติดตามผลอีกครั้ง รวมไปถึงตรวจสอบสภาพวีเนียร์ สุขภาพเหงือก ฟัน และช่องปาก พร้อมกับถ่ายภาพช่องปาก รอยยิ้ม และใบหน้าของคนไข้ไว้เพื่อเปรียบเทียบก่อนทำ และหลังทำวีเนียร์ว่าแตกต่างกันอย่างไร

คำถามที่พบบ่อยในการทำวีเนียร์

  •  ควรทำวีเนียร์กี่ซี่ถึงจะดี

ตอบ วีเนียร์สามารถทำได้มากกว่า 1 ซี่ ตามปัญหาของแต่ละคน ควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อวางแผนการรักษา และแจ้งความต้องการร่วมกัน เพื่อออกแบบรอยยิ้มให้สวยงามเหมาะสมกับคนไข้มากที่สุด

  • ข้อเสียของการทำวีเนียร์กับคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน

ตอบ การทำวีเนียร์จำเป็นต้องอยู่ภายใต้การดูแลของทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์เท่านั้น เพราะวีเนียร์เป็นการแก้ปัญหาของฟัน และออกแบบรอยยิ้มให้สวยงาม หากทำกับคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐานอาจส่งผลให้สุขภาพฟันแย่กว่าเดิม มีรูปฟันไม่สวย ไม่เข้ากับใบหน้า และอาจส่งผลข้างเคียงร้ายแรงในอนาคตได้อีกด้วย

  • ถ้าวีเนียร์แตก แก้อย่างไร

ตอบ เพราะวีเนียร์ทำจากวัสดุที่ค่อนข้างบาง จึงอาจเกิดการแตก ร้าว หรือบิ่นได้ง่าย หากคนไข้พบรอยร้าว หรือรอยแตก แนะนำให้มาพบทันตแพทย์โดยเร็วที่สุด หากเสียหายไม่มากสามารถซ่อมให้กลับมาสวยดังเดิมได้ แต่ถ้าทันตแพทย์วินิจฉัยว่าเสียหายหนัก อาจต้องทำใหม่มาทดแทน